ครั้งที่ 4
บันทึก สัปดาห์ที่ 5
วิชา : การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน : อาจารย์ กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน/เดือน/ปี : 04 และ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
กลุ่มเรียน : 102 (วันพุธ : เช้า)(วันพฤหัสบดี : บ่าย)
เวลาเข้าเรียนวันพุธ 08:30-10:10 ห้องเรียน : 441
เวลาเข้าเรียนวันพฤหัสบดี 12:20-15:00 ห้องเรียน : 223
ชั่วโมงที่ 4 ของการเรียนการสอน วิชา การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย วันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ สำหรับงานศิลปะเด็กปฐมวัย และมอบหมายงานให้ คือ “กระดาษร่างต่อจุดเป็นภาพ” และนำเสนอผลงานของสัปดาห์ที่ผ่านมา
บันทึก สัปดาห์ที่ 5
วิชา : การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน : อาจารย์ กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน/เดือน/ปี : 04 และ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
กลุ่มเรียน : 102 (วันพุธ : เช้า)(วันพฤหัสบดี : บ่าย)
เวลาเข้าเรียนวันพุธ 08:30-10:10 ห้องเรียน : 441
เวลาเข้าเรียนวันพฤหัสบดี 12:20-15:00 ห้องเรียน : 223
ชั่วโมงที่ 4 ของการเรียนการสอน วิชา การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย วันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ สำหรับงานศิลปะเด็กปฐมวัย และมอบหมายงานให้ คือ “กระดาษร่างต่อจุดเป็นภาพ” และนำเสนอผลงานของสัปดาห์ที่ผ่านมา
วัสดุที่ใช้ในงานศิลปะ
วัสดุ คือ สิ่งที่ใช้แล้วหมดไป เช่น กระดาษ สี กาว ฯลฯ ควรหลีกเลี่ยงวัสดุที่เป็นอันตรายกับเด็ก
เช่น วัสดุที่มีปลายแหลม คม
แตกหักง่าย ภาชนะที่เคยบรรจุสารเคมี หรือน้ำยาต่างๆที่ยังอาจติดค้าง หรือมีกลิ่นระเหยที่เป็นอันตรายต่อเด็ก
1.กระดาษ เป็นวัสดุที่สามารถนำมาใช้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ ได้อย่างกว้างขวาง เพราะ
หาง่าย ราคาไม่แพง เป็นวัสดุที่เด็กคุ้นเคย การนำกระดาษมาใช้กับเด็กครูควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานของกิจกรรมนั้นๆ
เพื่อจะได้งานที่ดี สวยงามและเหมาะสม ไม่ควรใช้กระดาษที่มีราคาแพงจนเกินไป
(1.1)กระดาษวาดเขียน
ซึ่งมีความหนาไม่เท่ากัน ที่เรียกเป็นปอนด์ มี 60 80 100ใช้ได้ดีกับงานวาดรูป
ระบายสีทุกชนิดสำหรับเด็ก
(1.2)กระดาษโปสเตอร์ มีทั้งชนิดหน้าเดียว
และสองหน้า ทั้งหนาและบาง สีสดใส หลากสี ราคาค่อนข้างแพง ใช้ในงานตัด
ประดิษฐ์เป็นงานกระดาษสามมิติเป็นส่วนมาก
(1.3)กระดาษมันปู เป็นกระดาษผิวเรียบมันด้านหนา
ด้านหลังเป็นสีขาว มีสีทุกสี เนื้อบาง เหมาะกับการทำศิลปะประเภทฉีก ตัด พับ
ปะกระดาษ
(1.4)กระดาษจากนิตยสาร เป็นกระดาษที่เหมาะในการนำมาใช้กับเด็กเล็กๆ
เพราะไม่ต้องซื้อหา เพียงแต่สะสมไว้ ซึ่งสามารถใช้แทนกระดาษมันปูได้เป็นอย่างดี
(1.5)กระดาษหนังสือพิมพ์ เป็นกระดาษที่ใช้ได้เช่นเดียวกับกระดาษนิตยสาร
แต่จะบางกว่า แต่หมึกอาจเลอะมือเด็กได้มากกว่า
แต่ก็มีขนาดใหญ่ใช้ในการรองปูโต๊ะหรือพื้นกันเปื้อน
ใช้ในงานที่ต้องการกระดาษชิ้นใหญ่ๆ เช่นการทำหุ่นตัวใหญ่ๆ
2.สี เป็นวัสดุที่ดึงดูดความสนใจของเด็กเป็นอย่างมาก
สีที่ใช้ในงานศิลปะของเด็กปฐมวัย เช่น สีเทียน สีฝุ่น สีโปสเตอร์ สีผสมอาหาร
สีจากธรรมชาติต่างๆ สีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อบ่งใช้ที่แตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับกิจกรรมแต่ละประเภทที่จัดให้กับเด็ก
(2.1) สีเทียน คือ สีที่ผสมกับขี้ผึ้ง
ควรเลือกชนิดที่มีเนื้อสีมากกว่าเนื้อเทียน มีสีสด แท่งโต เพื่อเด็กหยิบจับถนัดมือกว่าแท่งเล็กและไม่หักง่าย
หากซื้อเป็นกล่องควรเปิดดูที่มีสีสดๆ สีเข้มๆมากกว่าสีอ่อนๆ
(2.2)สีชอล์กเทียน เป็นสีที่มีราคาแพงกว่าสีเทียนธรรมดา
เป็นสีชอล์กที่ผสมน้ำมันหรือไข สีสดใส เนื้อนุ่ม สีหนา เมื่อระบายด้วยสีชนิดนี้แล้ว
สามารถใช้เล็บ นิ้วมือ หรือกระดาษทิชชู ตกแต่ง
เกลี่ยสีให้เข้ากันคล้ายรูปที่ระบายด้วยสีน้ำมัน สีชอล์กมักจะทำเป็นแท่งกลมเล็กๆ
และมีสีมากเกินไปเหมาะสำหรับเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก
(2.3)สีเทียนพลาสติก เป็นแท่งเล็กๆแข็ง มีสีสดหลายสี ใช้ระบายสีง่าย
เหลาได้เหมือนดินสอ
จึงสามารถระบายในส่วนที่มีรายละเอียดได้และสามารถใช้ยางลบธรรมดาลบบางส่วนที่ไม่ต้องการออกได้
แต่มีราคาแพงมาก
(2.4)สีเมจิก มี 2 ชนิด คือชนิดปลายแหลมและปลายตัด
เป็นสีที่สว่างสวยงามและสดใส เหมาะสำหรับการขีดเขียนลายเส้น
หรือการเขียนตัวหนังสือแต่อาจไม่เหมาะสำหรับเด็กระบายสีเนื้อที่กว้าง แต่เด็กเล็กๆ
จะชอบเพราะใช้สะดวก สีสด แห้งเร็ว ถ้าเปื้อนล้างออกง่าย
(2.5)ปากกาปลายสักหลาดหรือปากกาเคมี ให้สีสดใสมาก
ไม่เหมาะในการระบายพื้นที่กว้าง ถ้าทิ้งไว้นานๆ สีจะซีดเร็ว
ควรให้เด็กสวมปลอกปากกาทุกครั้งที่เขียนเสร็จ
(2.6)ดินสอ เด็กๆ ส่วนมากอยากใช้ดินสอในการวาดรูป ไม่ควรใช้ดินสอเป็นเครื่องมือในการวาดรูปสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า
7 ปี
เพราะการเสดงออกตามธรรมชาติของเด็กจะหดหายไป
(2.7)ดินสอสี หรือสีไม้ เหมาะสำหรับเด็กโตๆ มากกว่าเด็กเล็กๆ
เพราะนอกจากจะหัก ทู่ง่าย ต้องเหลาบ่อยๆ มีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับสีเทียนหรือสีประเภทผสมน้ำ
3.สีที่ต้องผสมน้ำหรือเป็นน้ำ
(3.1)สีฝุ่น เป็นสีทึบแสง
มีหลายสี ใช้ผสมน้ำให้ใสข้นเป็นครีมอาจผสมกาวหรือแป้งเปียก
ขึ้นอยู่กับงานแต่ละชนิด มีราคาถูกกว่าสีประเภทอื่น เก็บไว้ใช้ได้นาน
มีขายตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป เวลาใช้ต้องผสมกับน้ำเปล่า น้ำนม
น้ำแป้งและน้ำสบู่
(3.2)สีโปสเตอร์
เป็นสีทึบแสง เป็นสีที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมใช้เลย
ลักษณะคล้ายครีมมีราคาแพงกว่าสีฝุ่น เป็นสีที่เด็กๆ ใช้ง่าย แต่ถ้าต้องการสีอ่อนๆ
จะผสมน้ำไม่ได้ จะต้องใช้สีขาวผสมจะได้สีอ่อน
(3.3)สีน้ำ เป็นสีโปร่งแสง ผสมกลมกลืนง่าย
สามารถใช้ในส่วนที่เป็นรายละเอียดได้ มีทั้งที่เป็นหลอดและก้อน ใช่กับพู่กัน เด็กเล็กๆ
มักจะไม่ค่อยชอบใช้สีน้ำ เพราะเด็กช่วงนี้หากใช้สีน้ำในช่วงนี้ เด็กจะต้องคอยใช้พู่กันจามสีอยู่เสมอจึงวาดได้
ทำให้กระดาษเป็นรอยจุดๆ เส้นต่างๆ จะไหลไปถึงกัน ทำให้ภาพไม่ชัดเจน
จนในที่สุดก็ดูไม่รู้เรื่อง ทำให้เด็กเบื่อเพราะควบคุมสียาก
จึงเหมาะกับเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก
(3.4)สีพลาสติก มีขายตามร้านวัสดุก่อสร้าง ราคาสูง มีเนื้อสีข้น
ระบายได้เนื้อสีหยาบ มีกลิ่น เหมาะกับงานใหญ่ที่ไม่ต้องใช้รายละเอียดมากนัก
สามารถใช้แทนสีฝุ่นหรือสีน้ำได้ ข้อเสียคือ แปรงหรือพู่กันจะต้องจุ่มไว้ในน้ำเสมอ
ขณะที่พักการใช้ชั่วคราว และจะต้องล้างอย่างดีหลังจากเลิกใช้แล้ว
เนื่องจากสีมีคุณสมบัติแห้งเร็วจะทำให้พู่กันหรือแปรงแข็งใช้ไม่ได้
(3.5)สีจากธรรมชาติจะเป็นสีที่ได้จาก ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ ลำต้น ราก หรือ
เปลือกของพืช ดิน ฯลฯ เป็นสีที่ไม่สารเคมีเจือปน จึงไม่เป็นอันตราย แก่เด็ก
อย่างไรก็ตาม สีจากธรรมชาติบางชนิดก็อาจเป็นอันตรายที่เกิดจากอาการแพ้ในรูปแบบต่างๆ
ได้
4.วัสดุในการทำศิลปะ
(4.1)กาว กาวที่เหมาะสมกับเด็กมากที่สุดคือกาวที่กวนเองจากแป้งมันหรือแป้งข้าวเหนียว
เรียกว่าแป้งเปียก ราคาถูก ใช้งานได้ง่ายกว่ากาวชนิดอื่นๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะหรือยืดยาวเป็นเส้น
ล้างออกง่าย
(4.2)ดินเหนียว หรือดินตามธรรมชาติมีมากในต่างจังหวัด
ขุดหาได้ทั่วไป มีความนิ่มเหนียว นำมาใช้ปั้น
ตากแห้งหรือเผาเป็นเครื่องปั้นดินเผาได้ ระบายสีได้
(4.3)ดินน้ำมัน
เป็นดินที่มีส่วนผสมของน้ำมันผสมอยู่ มีกลิ่นแรง เนื้อนิ่มเมื่อโดนความร้อน
และแข็งได้เมื่อเจออากาศเย็น เหนียวติดมือไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ
(4.4)ดินวิทยาศาสตร์
มีลักษณะนิ่ม มีหลายสี ไม่เหนียวติดมือเหมือนดินน้ำมัน
และมักจะไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน จึงเหมาะสำหรับเด็ก
(4.5) วัสดุทั่วไป
เช่น ฟองน้ำ เชือก ทราย ผ้า ไม้ไอศกรีม เปลือกหอย ขวด ก้อนหิน ใบไม้ ฯลฯ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสี
1. สีเป็นองค์ประกอบของศิลปะที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกมากกว่าองค์ประกอบชนิดอื่น
2. สีเป็นวัตถุที่ได้จากธรรมชาติหรือจากที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมา
2.1 สีจากธรรมชาติ เช่น สีของดอกไม้ ใบไม้ ผล ราก ลำต้น
2.2 สีจากการสังเคราะห์ขึ้นมา เช่น สีน้ำ สีโปสเตอร์
สีอะคริลิก สีฝุ่น สีน้ำมัน สีทาบ้าน สีพลาสติก ฯลฯ
ทฤษฎีสี (Theory of colors)
สีขั้นที่ 1
สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง
สีขั้นที่ 2
สีแดง + สีน้ำเงิน = สีม่วง
สีแดง + สีเหลือง = สีส้ม
สีน้ำเงิน + สีเหลือง = สีเขียว
สีขั้นที่ 3
สีม่วง + สีน้ำเงิน = สีคราม
สีเขียว + สีเหลือง = สีเขียวอ่อน
สีส้ม + สีแดง = สีแสด
วรรณะสีร้อน
สีเหลือง สีส้มเหลือง สีส้มแดง
สีแดง สีม่วงแดง สีม่วง
วรรณะสีเย็น
สีเหลือง สีเขียว สีเขียวเหลือง
สีเขียวน้ำเงิน สีน้ำเงิน สีม่วง สีม่วงน้ำเงิน
อิทธิพลของสีที่ให้ความรู้สึก
สีเหลือง ร้อนและเย็น สว่าง เลื่อมใส น่าศรัทธา สดชื่น
สีแดง ร้อนรุนแรง ตื่นเต้น เร้าใจ
สีเขียว เย็น เจริญงอกงาม สดชื่น
สีน้ำเงิน เย็น สงบเงียบ ความมั่นคง ความอุดมสมบูรณ์
สีม่วง เศร้า ลึกลับ
ร้อนและเย็น มีเสน่ห์
สีส้ม ร้อน รุนแรง ตื่นเต้น
สีน้ำตาล ความแห้งแล้ง น่าเบื่อหน่าย
สีดำ เศร้า มืด หนักแน่น น่ากลัว
สีเทา สงบ สบายใจ เคร่งขรึม
สีขาว สะอาด บริสุทธิ์ เรียบง่าย สว่าง
สีฟ้า สว่าง มีชีวิตชีวา
สีชมพู ร่าเริง สดใส
งาน “กระดาษร่างต่อจุดเป็นภาพ”
วาดภาพสิ่งมี่ชีวิตและไม่มีชีวิต
(ผลงานของฉัน สิ่งมีชีวิตคือยีราฟ สิ่งไม่มีชีวิตคือสโนแมน)
(ผลงานของเพื่อนๆ สิ่งมีชีวิต)
(ผลงานของเพื่อนๆ สิ่งไม่มีชีวิต)
นำเสนองานสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต่อเติมภาพ
ออกแบบลวดลาย
(ผลงานของเพื่อนๆ สิ่งมีชีวิต)
(ผลงานของเพื่อนๆ สิ่งไม่มีชีวิต)
นำเสนองานสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต่อเติมภาพ
ออกแบบลวดลาย
วาดลวดลายบนรูปภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น